รู้หรือไม่? ป้ายภาษีและพ.ร.บ. ไม่เหมือนกัน


มีหลายคนเข้าใจผิด ว่าป้ายภาษีและพ.ร.บ. เป็นป้ายเดียวกัน ซึ่งจริงๆแล้ว ป้ายทั้ง 2 ไม่เหมือนกัน วันนี้น้องใกล้ชิดจะพาไปไขข้อข้องใจ ถึงความแตกต่าง และประโยชน์ของแต่ละป้ายนั้นใช้ทำอะไรได้บ้าง ไปดูกันเลย

ป้ายภาษีคืออะไร?

     ป้ายภาษี เป็นสิ่งที่ผู้ขับขี่ทุกคนต้องต่อทุกปีตามที่กฎหมายได้กำหนดไว้ เพราะถ้าหากไม่ต่อภาษีนานติดต่อกันเกิน 3 ปี จะทำให้ถูกระงับทะเบียนรถได้เลยทันที ผู้ขับขี่อาจจะต้องเสียเวลานำรถไปจดทะเบียนภาษีใหม่อีกครั้ง แล้วจึงจะได้ป้ายภาษีเก่ากลับมา ที่สำคัญเมื่อนำรถไปจดทะเบียนภาษีใหม่อาจถูกเก็บภาษีย้อนหลังอีกด้วย ถ้าหากผู้ขับขี่คนไหนไม่อยากเสียภาษีย้อนหลัง การต่อภาษีตรงต่อเวลาจึงเป็นสิ่งที่ควรกระทำมากที่สุด ซึ่งในปัจจุบันการต่อภาษีนั้นสามารถทำได้ก่อนหมดอายุไม่เกิน 3 เดือน และจะต้องทำ พ.ร.บ.ให้เสร็จก่อนต่อภาษี เพื่อให้ได้ป้ายภาษีสี่เหลี่ยมมาติดกระจกหน้ารถ เพราะถ้าหากโดนตรวจแล้วพบว่าไม่มีป้ายนี้ผู้ขับขี่จะได้รับโทษปรับ 400-1,000 บาท นั่นเอง

ป้ายภาษีรถยนต์

พ.ร.บ. คืออะไร?

     พ.ร.บ. เป็นประกันภัยภาคบังคับตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 ที่รถยนต์และรถจักรยานยนต์ทุกคันต้องทำไว้ เพราะถ้าหากตรวจสอบแล้วว่ารถคันไหนไม่มี พ.ร.บ. ตามที่กฎหมายว่าไว้จะมีโทษปรับไม่เกิน 10,000 บาท  และเอกสารที่เกี่ยวข้องกับ พ.ร.บ. เป็นเอกสารที่สำคัญมากจะต้องเก็บไว้ให้ดี เนื่องจากเป็นเอกสารที่ต้องใช้ในการต่อภาษีอีกด้วย หากรถคันไหนที่ได้ทำ พ.ร.บ.ไว้ เมื่อเกิดอุบัติเหตุขึ้นมาตัว พ.ร.บ.จะให้ความคุ้มครองค่ารักษาพยาบาลกรณีบาดเจ็บ หรือช่วยค่าปลงศพกรณีเสียชีวิต ตามวงเงินที่คุ้มครองในกรมธรรม์ของรถยนต์ประเภทนั้นๆ 

     สำนักงานคณะกรรมการกำกับและส่งเสริมการประกอบธุรกิจประกันภัย (คปภ.) ได้พูดถึงเหตุผลในการประกาศใช้กฎหมายว่า การที่รัฐออกกฎหมายกำหนดให้รถทุกคันต้องจัดให้มีประกันภัยอย่างน้อยที่สุด คือ การทำประกันภัยตามพระราชบัญญัติคุ้มครองผู้ประสบภัยจากรถ พ.ศ. 2535 โดยมีวัตถุประสงค์ ดังนี้

  1. เพื่อคุ้มครองและให้ความช่วยเหลือแก่ประชาชนที่ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต เพราะเหตุ ประสบภัยจากรถ โดยให้ได้รับการรักษาพยาบาลอย่างทันท่วงที กรณีบาดเจ็บ หรือช่วยเป็นค่า ปลงศพ กรณีเสียชีวิต
  2. เป็นหลักประกันให้โรงพยาบาลหรือสถานพยาบาลว่าจะได้รับค่ารักษาพยาบาลในการรักษาพยาบาลผู้ประสบภัยจากรถ
  3. เป็นสวัสดิสงเคราะห์ที่รัฐมอบให้แก่ประชาชนผู้ได้รับความเสียหายเพราะเหตุประสบภัยจากรถ
  4. ส่งเสริมและสนับสนุนให้การประกันภัยเข้ามีส่วนร่วมในการบรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประสบภัยและครอบครัว”
พ.ร.บ.รถยนต์

ดังนั้นรถทุกคันจะต้องมี ป้ายภาษี และ พ.ร.บ. เพื่อการประกันภัยต่อตัวรถและบุคคล และที่สำคัญทั้ง 2 อย่างนี้ จำเป็นต้องทำทุกปีตามที่กฎหมายได้ระบุไว้ เพราะถ้าหากรถคันไหนไม่มี พ.ร.บ. ความคุ้มครองและการชดเชยค่าเบิกจ่ายเมื่อเกิดอุบัติเหตุก็จะไม่สามารถทำได้ และจะไม่สามารถต่อภาษีได้ด้วยเช่นกัน

ใครกำลังต้องการทำพ.ร.บ.ต่อภาษี เมืองไทย แคปปิตอล มีบริการจำหน่าย พ.ร.บ. รถจักรยานยนต์ รถยนต์ และรถเพื่อการเกษตร พร้อมรับต่อภาษี ที่จะอำนวยความสะดวกให้ลูกค้า ช่วยประหยัดเวลาการเดินทาง สามารถทำเรื่องได้ที่สาขาใกล้บ้านคุณ ค้นหาสาขาได้ที่นี่