อาชีพเสริม หลังเลิกงาน (ฉบับปี 2567)

หลังเลิกงานของใครหลายๆคนอาจไม่ใช่การสิ้นสุดการทำงานของวันนี้ แต่มันคือช่วงเวลาที่สร้างโอกาสให้เรามองหาอนาคตใหม่ที่สดใส คุณสามารถพัฒนาศักยภาพของตัวเองและสร้างรายได้เสริมได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยการมองหาอาชีพเสริมที่ไม่ต้องลงทุนมากแต่ก็สามารถทำได้จริง เรามาสำรวจอาชีพเสริมที่เหมาะสมในปี 2567 ที่สามารถทำได้โดยไม่ต้องลงทุนมากกัน จะมีอะไรบ้างไปดูกันเลย

ขายสินค้าออนไลน์

การขายสินค้าออนไลน์เป็นอาชีพเสริมที่มีความยืดหยุ่นและสามารถทำได้ทุกที่ทุกเวลา คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการขายสินค้าที่คุณชอบหรือมีความเชี่ยวชาญ สามารถเริ่มต้นด้วยการขายผ่านเว็บไซต์ออนไลน์ โซเชียลมีเดีย หรือแพลตฟอร์มการขายออนไลน์อื่น ๆ เพื่อเริ่มต้นธุรกิจของคุณได้ง่าย ๆ

ปลูกผักหรือต้นไม้ขาย

หากคุณมีพื้นที่ว่างในบ้าน คุณสามารถใช้โอกาสนี้ในการปลูกผักหรือต้นไม้เพื่อการขาย การปลูกผักและต้นไม้เป็นอาชีพที่มีความเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมและสามารถสร้างรายได้ได้ดี

ขายเสื้อผ้ามือสอง

การขายเสื้อผ้ามือสองเป็นทางเลือกที่น่าสนใจสำหรับการสร้างรายได้เสริม คุณสามารถนำเสื้อผ้ามือสองที่ไม่ใช้มาขาย โดยสามารถใช้แพลตฟอร์มการขายออนไลน์ หรือ ตลาดนัด ได้ง่ายๆ

รับจ้างส่งอาหารหรือบริการขับรถ

หากคุณมีรถและชอบการขับขี่ คุณสามารถเริ่มต้นด้วยการรับจ้างส่งอาหารหรือให้บริการขับรถส่วนตัวในช่วงเวลาว่าง ๆ ของคุณ ซึ่งเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้เสริมโดยไม่ต้องมีการลงทุนมาก

เป็นตัวแทนช่วยขายสินค้า

การเป็นตัวแทนช่วยขายสินค้าเป็นวิธีที่ดีในการสร้างรายได้เสริมโดยไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้น คุณสามารถเริ่มต้นโดยการเลือกสินค้าหรือบริการที่คุณสนใจและมีความชอบ จากนั้นคุณสามารถแบ่งปันลิงก์การขายกับผู้ที่สนใจและได้รับค่าคอมมิชชั่นจากการขายที่เกิดขึ้น

การเลือกทำงานอาชีพเสริมหลังเลิกงานนั้น ขึ้นอยู่กับความสนใจและความเหมาะสมของแต่ละบุคคล คำแนะนำที่ดีที่สุดคือเลือกทำสิ่งที่คุณชื่นชอบและมีความสุข เพื่อให้งานเสริมหลังเลิกงานนั้นมีความหมายและยั่งยืนได้ในระยะยาว

Lifestyles, Articles

ไลฟ์สไตล์ที่เกี่ยวข้อง

  • Debt management
    Debt management

    5 สัญญาณเตือน ของคนจะเป็น “หนี้เสีย”

    การจัดการการเงินเป็นสิ่งสำคัญที่ทุกคนต้องใส่ใจ เพราะถ้าปล่อยให้หนี้สินเพิ่มขึ้นโดยไม่สามารถควบคุมได้ อาจจะส่งผลให้เกิดปัญหาการเงินจนกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด ซึ่งอาจส่งผลกระทบทั้งในด้านการเงินและจิตใจ วันนี้เราจะมาแนะนำ 5 สัญญาณเตือนที่อาจบ่งบอกว่าคุณกำลังเข้าสู่สถานการณ์หนี้เสีย 1. มีหนี้มากกว่า 45% ของรายได้ หนี้ที่มีมูลค่ามากกว่า45%ของรายได้ รายเดือนนั้นถือเป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าอาจจะมีปัญหาการเงินตามมา เมื่อหนี้สินเพิ่มขึ้นจนเกินกำลังในการชำระหนี้ จะทำให้เกิดภาระหนักในการจัดการการเงิน และอาจทำให้คุณตกอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถควบคุมการใช้จ่ายและชำระหนี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพ 2. กู้หนี้ใหม่มาโปะหนี้เก่า การกู้เงินจากแหล่งใหม่เพื่อมาปิดหนี้เก่านั้นเป็นสัญญาณอันตรายของการบริหารจัดการหนี้ที่ผิดพลาด หลายคนมักจะกู้ยืมหนี้ใหม่เพื่อล้างหนี้เก่า แต่กลับทำให้ปัญหาหนี้สินไม่ลดลง แต่กลับเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ การทำเช่นนี้จะเป็นการสร้างหนี้สินที่ไม่จบสิ้น และเสี่ยงต่อการถูกฟ้องร้องหรือกลายเป็นหนี้เสียในที่สุด 3. กลัวเสียงโทรศัพท์ ไม่กล้ารับสาย เมื่อคุณเริ่มรู้สึกกลัวเสียงโทรศัพท์หรือไม่กล้ารับสายจากเจ้าหนี้ นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณกำลังอยู่ในภาวะที่ไม่สามารถชำระหนี้ได้ตามกำหนด และอาจกำลังหลีกเลี่ยงการติดต่อกับเจ้าหนี้ การหลีกเลี่ยงการติดต่อในช่วงนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้สถานการณ์ยิ่งแย่ลง แต่ยังอาจทำให้เจ้าหนี้ใช้มาตรการที่รุนแรงขึ้น 4. กินไม่ได้นอนไม่หลับ ภาวะการเงินที่ไม่มั่นคงและการแบกรับหนี้มากเกินไป มักส่งผลต่อสุขภาพจิตและร่างกายได้ การกินไม่ได้นอนไม่หลับเป็นสัญญาณของความเครียดที่สะสมจากภาระหนี้สิน อาจทำให้คุณรู้สึกวิตกกังวล และสูญเสียความสามารถในการจัดการชีวิตประจำวัน 5. หลอนกลัวเจอเจ้าหนี้ หากคุณเริ่มรู้สึกกังวลหรือหลอนกลัวการเจอเจ้าหนี้ หรือการได้รับคำเตือนเรื่องหนี้สิน นี่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนว่าคุณอาจจะต้องพิจารณาทบทวนการจัดการหนี้ใหม่แล้ว การหลีกเลี่ยงการเผชิญหน้ากับปัญหาจะทำให้ปัญหายิ่งเลวร้ายขึ้น และอาจนำไปสู่การเกิดหนี้เสียในระยะยาว ปรึกษาปัญหาหนี้ หากคุณกำลังประสบปัญหาหนี้สินและไม่สามารถจัดการได้ด้วยตนเอง อย่าลังเลที่จะขอคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญทางการเงิน เพื่อช่วยให้คุณจัดการหนี้สินได้อย่างมีประสิทธิภาพ และลดผลกระทบจากปัญหานี้ได้ หากต้องการคำปรึกษาเพิ่มเติม สามารถติดต่อ เมืองไทย แคปปิตอล […]

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Knowledge
    Knowledge

    หนี้ดี Vs หนี้เสีย

    การมีหนี้ไม่ใช่เรื่องผิด แต่การเข้าใจความแตกต่างระหว่างหนี้ดีและหนี้เสียเป็นสิ่งสำคัญที่จะช่วยให้คุณบริหารจัดการ การเงินได้อย่างมีประสิทธิภาพมาทำความรู้จักกันว่า หนี้ประเภทไหนที่ควรรับผิดชอบและหนี้ประเภทไหนที่ควรหลีกเลี่ยง หนี้ดี หนี้ดี คือหนี้ที่สร้างรายได้หรือก่อให้เกิดประโยชน์ในอนาคต ซึ่งจะช่วยให้คุณเติบโตทางการเงินได้อย่างยั่งยืน ตัวอย่างหนี้ที่ดี คือ หนี้เสีย หนี้เสีย คือหนี้ที่ไม่สร้างรายได้และเกิดจากการใช้จ่ายเกินตัว ซึ่งสามารถทำให้เกิดภาระทางการเงินที่หนักหน่วง ประเภทของหนี้เสียที่ควรหลีกเลี่ยง คือ วิธีการจัดการหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ การเข้าใจและแยกแยะระหว่างหนี้ดีและหนี้เสียเป็นสิ่งสำคัญในการบริหารจัดการการเงินส่วนบุคคล หนี้ดีสามารถเป็นเครื่องมือที่ช่วยสร้างความมั่นคงและเพิ่มโอกาสในการสร้างรายได้ ในขณะที่หนี้เสียอาจทำให้คุณมีปัญหาทางการเงินในระยะยาว ดังนั้น ก่อนตัดสินใจเป็นหนี้ ควรพิจารณาให้รอบคอบว่าเป็นหนี้ประเภทไหน และจะส่งผลต่ออนาคตของคุณอย่างไร

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Articles
    Articles

    ติดโซลาร์เซลล์ ดียังไง?

    ในยุคที่ทุกคนเริ่มให้ความสำคัญกับการรักษาสิ่งแวดล้อมและการใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ การติดตั้งโซลาร์เซลล์จึงกลายเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะติดตั้งในบ้านหรือสถานประกอบการเนื่องจาก มีข้อดีหลายประการที่สามารถช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายและรักษาสิ่งแวดล้อม มาดูกันว่าการติดโซลาร์เซลล์นั้นดียังไง? พลังงานแสงอาทิตย์ไม่มีวันหมด แสงอาทิตย์เป็นทรัพยากรที่ไม่จำกัด และมีให้เราใช้ทุกวัน ตราบใดที่โลกยังคงหมุนอยู่ เราก็สามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ได้อย่างต่อเนื่อง ผลิตไฟฟ้าได้ทุกที่ที่มีแสงแดด ไม่ว่าคุณจะอยู่ในเมืองหรือชนบท หากมีแสงแดด ก็สามารถผลิตไฟฟ้าได้ ทำให้การใช้พลังงานจากโซลาร์เซลล์เป็นทางเลือกที่เข้าถึงได้ง่าย พลังงานสะอาด รักษาสิ่งแวดล้อม การผลิตไฟฟ้าจากแสงอาทิตย์ไม่ก่อให้เกิดมลพิษหรือก๊าซเรือนกระจก ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมให้สะอาดและปลอดภัย อายุการใช้งานยาวนาน แผงโซลาร์เซลล์มีอายุการใช้งานมากกว่า 25 ปี ทำให้คุณสามารถใช้พลังงานสะอาดนี้ได้ในระยะยาว โดยไม่ต้องเปลี่ยนใหม่บ่อยๆ ช่วยลดค่าไฟได้ถึง 30-70% ขึ้นอยู่กับปริมาณการติดตั้ง โซลาร์เซลล์สามารถช่วยให้คุณประหยัดค่าไฟฟ้าได้อย่างมาก ส่งผลดีต่อการเงินของครัวเรือน ความปลอดภัยสูง ระบบโซลาร์เซลล์มีความปลอดภัยสูง ไม่มีการใช้น้ำมันหรือก๊าซ ทำให้มีความเสี่ยงน้อยต่ออุบัติเหตุจากการระเบิดหรือไฟไหม้ พลังงานจากธรรมชาติไม่ต้องเสียเงินซื้อ แสงแดดเป็นทรัพยากรธรรมชาติที่เราไม่ต้องจ่ายเงินเพื่อใช้ ทำให้คุณสามารถผลิตไฟฟ้าได้ฟรีหลังจากการติดตั้งระบบ เมืองไทย แคปปิตอลมีสินเชื่อโซลาร์เซลล์ให้บริการด้วยนะ! หากใครสนใจ สามารถติดต่อสาขาใกล้บ้านได้เลย คลิก การลงทุนในโซลาร์เซลล์ไม่เพียงแต่จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย ยังช่วยสร้างอนาคตที่ยั่งยืนให้กับเราและโลกใบนี้อีกด้วย! หมายเหตุ : กู้เท่าที่จำเป็นและชำระคืนไหวอัตราดอกเบี้ยที่แท้จริง 17%-18.10% ต่อปี

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Debt management
    Debt management

    อยากมีชีวิตดี ปลดหนี้ไวทำได้ใน 3 ขั้นตอน

    การปลดหนี้ให้เร็วที่สุดไม่เพียงแต่ช่วยให้เรามีชีวิตที่ดีขึ้น แต่ยังสร้างความสบายใจและอิสระทางการเงินอีกด้วย หากคุณต้องการปลดหนี้อย่างมีประสิทธิภาพ ลองทำตาม 3 ขั้นตอนง่ายๆ ต่อไปนี้ 1. หยุดสร้างภาระหนี้เพิ่ม ขั้นตอนแรกที่สำคัญที่สุดคือการหยุดสร้างหนี้ใหม่ หากคุณมีหนี้อยู่แล้ว การเพิ่มภาระหนี้จะทำให้สถานการณ์แย่ลง ดังนั้นวางแผนการเงินให้ดี โดยเริ่มจากการตัดรายจ่ายที่ไม่จำเป็น เช่น ค่าใช้จ่ายสำหรับของฟุ่มเฟือยหรือความบันเทิงที่ไม่สำคัญ เปลี่ยนรายจ่ายเหล่านี้เป็นเงินออม เพื่อใช้ในการชำระหนี้ การมีแผนการเงินที่ชัดเจนจะช่วยให้คุณสามารถมองเห็นทางออกในการปลดหนี้ได้ง่ายขึ้น 2. ชำระหนี้ให้ตรงวันที่กำหนด การชำระหนี้ตามวันที่กำหนดไม่เพียงแต่ช่วยสร้างประวัติเครดิตที่ดี แต่ยังช่วยหลีกเลี่ยงการเสียค่าใช้จ่ายเพิ่มเติมจากการชำระล่าช้าหรือดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้นต้องเตือนความจำให้ตัวเอง ไม่ให้พลาดวันที่ต้องชำระหนี้ และหากเป็นไปได้ให้ตั้งงบประมาณสำหรับการชำระหนี้ในแต่ละเดือน เพื่อให้สามารถชำระได้อย่างสม่ำเสมอ 3. ผ่อนเกินค่างวดทุกงวด หากคุณมีโอกาส ควรพิจารณาการผ่อนชำระเกินจากค่างวดที่กำหนดในแต่ละเดือน การชำระเงินเกินจะช่วยลดเงินต้นและดอกเบี้ยที่เหลืออยู่ ซึ่งจะทำให้คุณสามารถปลดหนี้ได้เร็วขึ้น ในกรณีที่มีเงินส่วนเกินจากรายได้หรือเงินโบนัส ควรนำมาใช้ในการชำระหนี้เพื่อเร่งการปลดหนี้ให้เร็วที่สุด การปลดหนี้อาจดูเหมือนเป็นเรื่องที่ท้าทาย แต่ด้วยการวางแผนการเงินที่ดี การชำระหนี้ตรงเวลา และการผ่อนเกินในทุกงวด คุณสามารถกลับมามีชีวิตที่ดีและมีอิสระทางการเงินได้ในเวลาไม่นาน เริ่มต้นวันนี้เพื่ออนาคตที่สดใสขึ้น!

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Knowledge
    Knowledge

    4 วิธีรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ตัวร้าย

    ในยุคที่เทคโนโลยีและการสื่อสารพัฒนาอย่างรวดเร็ว การได้รับสายโทรศัพท์จากแก๊งคอลเซ็นเตอร์กลายเป็นปัญหาที่หลายคนต้องเผชิญ แก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่เพียงแต่ทำให้เรารู้สึกไม่สบายใจ แต่ยังเสี่ยงต่อการสูญเสียข้อมูลส่วนตัวและการเงินอีกด้วย ดังนั้นเราจึงควรมีวิธีรับมือที่ถูกต้องเพื่อปกป้องข้อมูลส่วนตัวและการเงินของเรา ด้วย 4 วิธีรับมือกับแก๊งคอลเซ็นเตอร์ 1. ตรวจสอบเบอร์โทรศัพท์ก่อนรับสายทุกครั้ง ก่อนที่คุณจะรับสายจากหมายเลขที่ไม่รู้จัก ให้ใช้เวลาสั้น ๆ ในการค้นหาหมายเลขนั้น ๆ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต หรือใช้แอปพลิเคชันตรวจสอบหมายเลขโทรศัพท์ เพื่อดูว่าหมายเลขนั้นเคยมีการรายงานว่าเป็นของแก๊งคอลเซ็นเตอร์หรือไม่ การทำเช่นนี้จะช่วยให้คุณตัดสินใจได้ว่าจะรับสายหรือไม่ 2. ห้ามให้ข้อมูลส่วนตัวกับบุคคลอื่นเด็ดขาด หากคุณได้รับสายจากบุคคลที่ขอข้อมูลส่วนตัว เช่น หมายเลขบัตรประชาชน บัตรเครดิต หรือรหัสผ่าน ควรปฏิเสธทันที ไม่ควรให้ข้อมูลใด ๆ แม้ว่าผู้โทรจะอ้างว่ามาจากสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่น่าเชื่อถือ เพราะข้อมูลเหล่านี้อาจถูกนำไปใช้ในทางที่ผิดได้ 3. ตรวจสอบข้อมูลให้แน่ใจ อย่าเชื่อทันที หากคุณสงสัยเกี่ยวกับข้อมูลที่ผู้โทรให้มา เช่น การชนะรางวัลหรือการแจ้งปัญหาบัญชี ควรตรวจสอบข้อมูลเหล่านี้กับสถาบันการเงินหรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องโดยตรง อย่าเชื่อในสิ่งที่ได้ยินจากผู้โทรทันที เพราะอาจเป็นการหลอกลวงได้ 4. หากหลงกลไปแล้ว รีบติดต่อสถาบันการเงิน อายัดบัตร และขอความช่วยเหลือ หากคุณตกเป็นเหยื่อของแก๊งคอลเซ็นเตอร์และให้ข้อมูลส่วนตัวไปแล้ว ควรรีบติดต่อสถาบันการเงินของคุณเพื่ออายัดบัตรและป้องกันการทำธุรกรรมที่ไม่ถูกต้อง นอกจากนี้ ควรขอคำแนะนำจากเจ้าหน้าที่เพื่อจัดการกับสถานการณ์อย่างถูกต้อง การป้องกันตัวเองจากแก๊งคอลเซ็นเตอร์ไม่ใช่เรื่องยาก เพียงแค่คุณมีความระมัดระวังและไม่ประมาทในการให้ข้อมูลส่วนตัว ก็สามารถลดความเสี่ยงที่จะตกเป็นเหยื่อได้อย่างมาก!

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
  • Articles
    Articles

    กินเจอย่างไรไม่ให้น้ำหนักขึ้น

    การกินเจเป็นโอกาสดีในการทำความสะอาดร่างกายและใส่ใจสุขภาพ แต่หากไม่ระวัง อาจทำให้น้ำหนักเพิ่มขึ้นได้ ดังนั้น นี่คือเคล็ดลับในการกินเจอย่างไรไม่ให้น้ำหนักเพิ่มขึ้น 1. กะปริมาณให้พอเหมาะ แม้ว่าอาหารเจมักมีส่วนผสมจากธรรมชาติ แต่การบริโภคในปริมาณมากยังคงส่งผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก ควรกะปริมาณให้เหมาะสม โดยใช้จานเล็กหรือชามในการตักอาหาร 2. ไม่ลืมออกกำลังกาย การออกกำลังกายเป็นสิ่งที่สำคัญในทุกช่วงเวลา โดยเฉพาะเมื่อกินเจ เพื่อเผาผลาญพลังงานที่ได้รับจากอาหาร แนะนำให้ทำกิจกรรมอย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน เช่น เดิน วิ่ง หรือปั่นจักรยาน 3. เลือกอาหารประเภทต้ม นึ่ง อาหารที่ต้ม หรือนึ่ง จะมีไขมันน้อยกว่าอาหารที่ทอดหรือผัด ควรเลือกอาหารประเภทนี้ให้มากที่สุด เช่น ผักต้ม หรือซุปผัก เพื่อช่วยลดแคลอรีและยังดีต่อสุขภาพ 4. หลีกเลี่ยงอาหารเจที่มีไขมันสูง หลายคนอาจเข้าใจผิดว่าอาหารเจทุกชนิดดีต่อสุขภาพ แต่บางชนิดกลับมีไขมันสูง เช่น ขนมเจที่ใช้ไขมันในการทอด ควรเลือกบริโภคอาหารเจที่มีส่วนผสมธรรมชาติ และหลีกเลี่ยงอาหารที่มีการปรุงแต่งเกินไป 5. หิวบ่อย ถั่วช่วยได้ ถั่วเป็นแหล่งโปรตีนและใยอาหารที่ดี ช่วยให้รู้สึกอิ่มนาน หากรู้สึกหิวบ่อยๆ สามารถทานถั่วในปริมาณที่พอเหมาะ เพื่อช่วยควบคุมความหิว และทำให้ไม่ต้องกินอาหารมากเกินไป 6. ทำอาหารเจทานเอง การทำอาหารเจทานเองไม่เพียงช่วยควบคุมวัตถุดิบและปริมาณที่ใช้ แต่ยังเป็นโอกาสให้เราได้สร้างสรรค์เมนูใหม่ๆ […]

    [email protected]
    อ่านเพิ่มเติม
line